Juvelook

Juvelook คืออะไร ?

Juvelook เหมาะกับใคร

  • เหมาะกับกับคนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง
  • เหมาะกับกับคนที่มีปัญหาผิวหมอง หน้าแห้ง แต่งหน้าไม่ติด
  • เหมาะกับกับคนที่มีปัญหามีหลุมสิวตื้นๆ
  • เหมาะกับกับคนที่มีปัญหาผิวขาดวอลลุ่ม แห้งกร้าน
  • เหมาะกับกับคนที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ
  • เหมาะกับกับคนที่มีปัญหามีริ้วรอย มีตีนกา มีริ้วรอยรอบๆ คอ
  • เหมาะกับกับคนที่ต้องกาารแก้ปัญหาหน้าโทรม ผิวขาดความชุ่มชื้น

Juvelook ฉีดจุดไหน

  • ทั่วหน้า
  • ใต้ตา
  • หลุมสิวหน้าแก้ม
  • หน้าผาก
  • ตีนกา ร่องน้ำตา

Juvelook ช่วยเรื่องอะไร

เติมเต็มใต้ตา ร่องแก้ม

ปรับผิวให้เรียบเนียน

กระตุ้นคอลลาเจนผิวแน่นฟู ผิวดูเต็มมากขึ้น

บูสต์ผิวชุมชื้น อิ่มน้ำ ฉ่ำโกลว์

ลดขนาดรูขุมขน หลุมสิวตื้นขึ้น

ลดริ้วรอยใบหน้าและคอ

การเตรียมตัวก่อนและหลังฉีด Juvelook

การเตรียมตัวก่อนฉีด Juvelook

  • งดการสครับผิวหน้า หรือบริเวณที่ฉีด ก่อนทำอย่างน้อย 2-3 วัน
  • เพื่อลดการอักเสบของผิว
  • งดการทานยา หรือวิตามินอาหารเสริม กลุ่มที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 7 วันก่อนทำ
  • งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ก่อนทำ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีด Juvelook

  • ควรทำความสะอาดผิวหน้าเบาๆด้วยน้ำสะอาดหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงการถูหรือขัดผิวแรงๆ ซึ่งอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
  • หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด 7 วัน
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีอุณหภูมิสูง เช่น การอบซาวน่า การทำเลเซอร์ต่างๆ
  • งดแต่งหน้า 24 ชั่วโมง
  • หากมีตุ่มแดงหรือคันบริเวณที่ฉีดมากผิดปกติ แนะนำปรึกษาแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • แนะนำให้ฉีดทุกหนึ่งเดือนติดต่อกันสามครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดีของการรักษา

Juvelook ราคาเท่าไหร่

รีวิวเคสคนไข้ Juvelook กับ Surkin Clinic

คำถามที่พบบ่อย

Juvelook อยู่ได้นานมั้ย
Juvelook สามารถทำให้ผิวอิ่มฟู นาน 12 เดือน หากต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นและชัดเจน แนะนำฉีดกระตุ้นต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 18 เดือน (หลังจากฉีดขวดสุดท้าย) 
Juvelook ฉีดครั้งละกี่ CC
Juvelook แบ่งเป็นฉีดทั่วหน้าและแยกบริเวณ

ทั่วหน้าแนะนำฉีดครั้งละ 1 ขวด (8 CC)

เฉพาะบางจุด แนะนำให้เข้ารับการประเมินจากแพทย์เพื่อให้ทราบจำนวน CC ที่เหมาะสมและปลอดภัย
Juvelook รักษาหลุมสิวได้มั้ย
Juvelook ฉีดใต้ตาคล้ำ

การฉีด Juvelook เพื่อแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ สามารถทำได้ ในเคสที่ผิวยุบบางต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้บริเวณใต้ตา เพื่อเพิ่มความหน้าให้ชั้นผิวบริเวณใต้ตา ลดการมองเห็นเส้นเลือด Juvelook สามารถทำได้
Juvelook VS Filler

Juvelook และ Filler มีความแตกต่างกันที่ชัดเจน ทั้งในเรื่องของผลลัพธ์และส่วนผสม

Juvelook คือ Hybrid biostimulator มีทั้งตัว PDLLA และ HA ในตัวเดียวกัน เน้นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับคนที่หน้าโทรม ใต้ตาคล้ำ มีหลุมสิวและริ้วรอยร่องตื้น

ส่วนของ Filler (ฟิลเลอร์) คือ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid : HA เน้นการเติมเต็มเฉพาะจุด เช่น ปาก ใต้ตา คาง ร่องแก้ม หรือ การปรับรูปหน้า ให้ดูมีวอลลุ่มมากขึ้น แก้ปัญหาหน้าไม่เท่ากัน 

Juvelook และ Filler สามารถฉีดพร้อมกันในวันเดียวได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์

Juvelook VS Sculptra

Juvelook เป็น Hybrid biostimulator ที่มี 2 ส่วนผสมทั้ง PDLLA และ HA ในตัวเดียวกัน เน้นฉีดเพื่อปรับสภาพผิว เติมเต็มผิว หลุมสิวและรูขุมขน หลังฉีดไม่จำเป็นต้องนวด

Sculptra เป็น Collagen Biostimulator ชนิด Poly-L-Lactic (PLLA-SCA) เน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามกระบวนการธรรมชาติ ยกกระชับ แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ผิวทรุด ผิวเหี่ยว โครงสร้างผิวไม่แข็งแรง ปัญหาผิวตามช่วงอายุ หลังฉีดต้องนวดหน้าตามหลัก Triple 5 เพื่อกระตุ้มการสร้างคอลลาเจน

สามารถเลือกฉีดตามปัญหาผิว แบ่งเป็น

  • Juvelook เหมาะกับผิวบาง ผิวแห้ง มีริ้วรอย รูขุมขนกว้าง มีหลุมสิว  
  • Sculptra เหมาะกับผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวทรุด โครงสร้างผิวไม่แข็งแรง ปัญหาผิวตามช่วงอายุ 
Juvelook ฉีดที่ไหนดี ?
การเลือกทำ บริการ โปรแกรม Juvelook กับคลินิกมีความสำคัญในการทำหัตถการ เพราะการเลือกทำหัตถการกับคลินิกที่มีมาตรฐาน ช่วยให้เรามั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย อีกทั้งมาตรฐานของเครื่องมือและตัวยาที่ใช้ ปลอดภัยสั่งตรงจาก

บริษัท จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดผลข้างเคียง และที่สำคัญทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ ผ่านการเทรนด์ และมีการติดตามผล 
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy